สำเนาจาก http://www.khaosod.co.th

www.matichonbook.com พระราชนิพนธ์พระร่วง ของ
พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

แต่ง/แปล : 
-  
ราคาปก : 350 บาท/ขาย :298 บาท
www.matichonbook.com matichonbook.com
ยินดีนำเสนอ... หนังสือดีคุณภาพคับเล่ม !!!
วรรณคดีปลุกใจให้รักชาติ
ฉบับลายพระราชหัตถ์ทั้งเล่ม
ประจำวันที่7 มกราคม พ.ศ. 2545




สิ้นอดีตนายก14ตค.
สัญญา ธรรมศักดิ์





สูญเสีย - นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนสงบนิ่งข้างศพบิดา ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีหลังเหตุการณ์14ตุลา ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบที่ร.พ.รามาธิบดี เมื่อวันที่6ม.ค. สิริรวมอายุ95ปี
อดีตนายกฯ 14 ตุลา 'สัญญา ธรรมศักดิ์' ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว เผยองคมนตรี-อดีตนายกฯ เสียชีวิตด้วยอาการตกเลือดในทางเดินอาหารเฉียบพลัน เผยเข้ารักษาตัวตั้งแต่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการไตวาย และการเต้นของหัวใจเริ่มผิดปกติ แพทย์รักษาอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ ตั้งศพสวดพระอภิธรรมที่วัดเบญจมบพิตร พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ม.ค.นี้

สิ้นอดีตนายกฯ คนสำคัญของเมืองไทยครั้งนี้เปิดเผยเมื่อวันที่6ม.ค. ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ผศ.น.พ.ชาญ เกียรติบุญศรี แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ องคมนตรี แถลงว่า ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ องคมนตรี ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบ เมื่อเวลา06.46น. วันเดียวกันนี้ ด้วยอายุ 95 ปี หลังจากเข้ารับการรักษาตัว ด้วยอาการตกเลือดในทางเดินอาหารเฉียบพลัน ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งแต่วันที่1ม.ค.ที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้ตรวจพบจุดที่เลือดไหล และให้การรักษาจนเลือดหยุดไหลได้ ตั้งแต่วันที่4ม.ค.ที่ผ่านมา ศ.สัญญา ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เนื่องจากมีอาการไตวาย ขณะที่สภาวะไหลเวียนโลหิต เกลือแร่ และเม็ดเลือดต่างๆ ดีขึ้น การเต้นของหัวใจเริ่มผิดปกติ ตั้งแต่เวลา21.40น. วันที่5ม.ค. คณะแพทย์ให้การรักษาอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทั้งนี้ในวันที่7ม.ค. จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และสวดพระอภิธรรม ที่วัดเบญจมบพิตร

สำหรับ ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตประธานองคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานศาลฎีกา อดีตประธานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก และ อดีตนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เกิดวันที่5เม.ย.2450 ที่บ้านข้างวัดอรุณราชวราราม บางกอกใหญ่ ธนบุรี บุตรของมหาอำมาตย์ตรี พระยาธรรมสารเวทย์วิเศษภักดี ศรีสัตยาวัตตาพิริยพาหะ (ทองดี ธรรมศักดิ์) และคุณหญิงชื้น ธรรมศักดิ์ สมรสกับท่านผู้หญิงพงา ธรรมศักดิ์ (เพ็ญชาติ) มีบุตร2คน คือ นายชาติศักดิ์ ธรรมศักดิ์ เกษียณอายุราชการในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ และ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ภายหลังจอมพลถนอม กิตติขจร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อ14ต.ค.2516 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ ศ.สัญญา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศในยามคับขัน ช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงที่นิสิต นักศึกษา และกลุ่มพลังประชาชนต่างๆ เรียกร้อง และสร้างความกดดันต่อรัฐบาลโดยตลอด จน ศ.สัญญา ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่22พ.ค.2517 แต่ได้รับการยืนยันจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลเสร็จสิ้นลง คณะรัฐบาลของ ศ.สัญญาจึงสิ้นสุดลงเมื่อวันที่26ม.ค.2518นับว่า ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีติดต่อกัน2สมัย โดยได้รับสมญาว่าเป็น "นายกรัฐมนตรีพระราชทาน" และได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นประธานองคมนตรี เมื่อวันที่5ธ.ค.2518

ศ.สัญญา เริ่มอาการป่วยตั้งแต่วันที่23เม.ย.2538ต้องนอนพักรักษาอาการป่วย ที่โรงพยาบาลพร้อมมิตร โดยเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จากสาเหตุสำลักอาหาร เพราะเส้นประสาทที่หล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อในลำคอผิดปกติ นำไปสู่การเป็นโรคปอดบวม แพทย์สันนิษฐานว่าเป็นโรค STROKE ประเภทหนึ่ง แม้ว่าการรักษาจะทำให้อาการดีขึ้นมาก แต่ยังไม่สามารถรับประทานอาหาร และดื่มน้ำได้ด้วยตัวเอง ต้องให้อาหารทางสายยาง และต้องรักษาตัวที่บ้านตลอดมา ทั้งนี้หลังจากหายป่วยได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่6มิ.ย.2539พร้อมรับพระราชทานเครื่องราชอิสริภรณ์นพรัตนราชวราภรณ์

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือว่านายสัญญาเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคมไทย ท่านเคยรับใช้บ้านเมืองมา เป็นอดีตประธานองคมนตรี อดีตประธานศาลฎีกา และอดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นความสูญเสียยิ่งใหญ่ รัฐบาลจะขอเป็นเจ้าภาพในงานสวดพระอภิธรรมศพ โดยตนจะเดินทางไปร่วมในพิธีพระราชทานอาบน้ำศพหลวงในวันที่ 7 ม.ค.นี้ด้วย

ผลการสำรวจ
ศิลปวัฒนธรรม
โดยสำนักวิจัยมติชน
ข่าวเด่น&ประเด็นร้อน
สรุปประเด็นร้อน&
เรื่องเด่นฉบับพรุ่งนี้
ร่วมแสดงความคิดเห็นต่างๆกับนานาประเด็น
กระดาน
แสดงความคิดเห็น
ข่าวภาคภาษาอังกฤษ
by Bangkok Post