Welcome...

-=+ Assumption College +=-


แม่หยั่นหว่อหยุ่นฟ้องสะใภ้4พันล. อ้างเจ้าของสิทธิ์
"เด็กสมบูรณ์" สะดุ้ง อาม่าอายุ 100 ปีผู้ร่วมตั้ง "หยั่นหว่อหยุ่น" ของตระกูล "ตั้งสมบัติวิสิทธิ์" ฟ้องขอใช้สิทธิการเป็นเจ้าของชื่อทางการค้า-สินสมรส และทรัพย์มรดกคืนจากสะใภ้สามมูลค่า 4,000 ล้านบาท แจงถูกโยกทรัพย์สมบัติจนไม่เหลือ

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 นางเหล่น หรือ หลิ่น แซ่ซู่ทู่ หรือ ซู่หู่ และนายภาณุ ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายถ่ง แซ่ตั้ง ร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสุมาลี ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายวิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ และในฐานะส่วนตัว ในข้อหาหรือฐานความผิด มรดกเรียกทรัพย์มรดกคืน 4,000 พันล้านบาท

คำฟ้องร้องดังกล่าวระบุว่า นางเหล่น แซ่ซู่ทู่ โจทก์ที่ 1 เป็นภรรยาของนายถ่ง แซ่ตั้ง โดยได้สมรสกันที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และย้ายภูมิลำเนามาอยู่กินฉันสามีภริยากันในประเทศไทยจนกระทั่งนายถ่ง แซ่ตั้ง ได้เสียชีวิตลงเมื่อพ.ศ.2511

ฟ้องซ้อ 3 ขอคืนทรัพย์

คดีนี้ นางเหล่นฟ้องที่ 1จำเลยคือ นางสุมาลี ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของนายวิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ และเป็นผู้จัดการมรดกของนายวิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์

นางเหล่น แจงว่า ได้สมรสกับนายถ่ง แซ่ตั้ง และย้ายมามีภูมิลำเนาในประเทศไทยประมาณ พ.ศ.2478 มีบุตรด้วยกัน 9 คน คือ นายหมั่นซ้ง แซ่ตั้ง หรือนายชาญ เธียรกิจ (ตาย) นางเสี่ยวจิ๋ว แซ่ตั้ง นายหมั่นหอย แซ่ตั้ง หรือนายนธี ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ หรือ สิทธิพลากร นายหมั่นฟก หรือ เหยว แซ่ตั้ง หรือนายวิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ (ตาย) นายหมั่นม่ง แซ่ตั้ง (ตาย) นายหมั่นจิว แซ่ตั้ง หรือนายศิวะชัย ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ (ตาย) นายหมั่นหน่ำ แซ่ตั้ง หรือ นายมลคล หรือ ยศธน หรือ นายภาณุ ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ นางเสี่ยวจี่ หรือ สิ่ง แซ่ตั้ง หรือ MRS.MARIE MUI และนางเสี่ยวเซี้ยว แซ่ตั้ง หรือ นางนพรัตน์ แซ่อึ้ง

จากนั้น ทั้งสองสามีภรรยาได้ร่วมทำมาหากินโดยเริ่มจากเป็นช่างไม้ จากนั้น ในปี 2490 นางเหล่นและนายถ่ง แซ่ตั้ง ได้ประกอบกิจการค้าขายของชำของใช้ในพิธีไหว้เจ้า น้ำจม น้ำใบบัวบก และได้ทำการผลิตซีอิ๊วขึ้นมาเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัว โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า "หยั่นหว่อหยุ่น" ซึ่งไม่นาน กิจการผลิตซีอิ๊ว "หยั่นหว่อหยุ่น" เจริญรุดหน้า ทั้งสองคนจึงได้ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 4785 เขตบางรัก พร้อมตั้งโรงงานผลิตซีอิ๊วบนที่ดินแปลงดังกล่าวโดยใช้ชื่อว่าโรงงานผลิตซีอิ๊วหยั่นหว่อหยุ่น และใช้ชื่อทางการค้าว่า หยั่นหว่อหยุ่น จำกัด

จดทะเบียนการค้าของตัวเอง

หลังจากนั้น นายถ่ง ได้ไปยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นรูปเด็กนั่งถือขวด และคำว่าตรา "เด็กสมบูรณ์" ต่อกรมทะเบียนการค้า และยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอีกหลายคำขอ เพื่อประโยชน์ในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายซีอิ๊วของนางเหล่นและนายถ่ง แซ่ตั้ง

นอกจากนั้น นางเหล่นและนายถ่ง ยังได้มอบหมายหน้าที่ให้ลูกๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจการทั้งผลิตและจำหน่าย โดยนางเหล่นและนายถ่ง ร่วมกันกำหนดหน้าที่และผลตอบแทนให้แก่ลูกๆ ตามความเหมาะสมเป็นคนๆไป

ต่อมาในปี 2511 นายถ่งได้เสียชีวิต โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินไว้ และก่อนจะเสียชีวิต ทั้งนายถ่งและนางเหล่น มีสินทรัพย์เป็นโรงงานผลิตซีอิ๊วหยั่นหว่อหยุ่น และที่ดินบางรักพร้อมกิจการผลิตและจำหน่ายซีอิ๊ว ชื่อการค้า "หยั่นหว่อหยุ่น" โดยนางเหล่นได้มอบให้กับนายนธี ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ หรือสิทธิพลากร ไปยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งนายนธี ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ เป็นผู้จัดการมรดกของนายถ่ง ซึ่งต่อมาศาลแพ่งได้แต่งตั้งนายนธี ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ เป็นผู้จัดการมรดกของนายถ่ง

เมื่อศาลแพ่งตั้งนายนธี เป็นผู้จัดการมรดกของนายถ่งแล้ว นางเหล่นพร้อมลูกๆ จึงหารือและมีความเห็นร่วมกันว่าให้คงกิจการโรงงานซีอิ๊วหยั่นหว่อหยุ่น โดยให้เป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวตามเดิม โดยมอบหมายให้นายวิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ และนายศิวะชัย ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ร่วมกันบริหารกิจการ และเมื่อครบรอบระยะเวลาในการดำเนินกิจการแต่ละปี ก็จะร่วมกันคิดบัญชีเพื่อแบ่งปันกำไรในระหว่างนางเหล่นและทายาทของนายถ่ง โดยทุกคนได้ครอบครองทรัพย์มรดกของนายถ่งร่วมกันตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

ลูกชายคนที่ 3 รับบริหาร

คำร้องระบุต่อมาว่า จากนั้น กิจการโรงงานซีอิ๊วหยั่นหว่อหยุ่นซึ่งมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้วได้เจริญขึ้นเป็นลำดับ นางเหล่นจึงได้ซื้อที่ดินข้างเคียงกับโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 2 แปลงเพื่อขยายกิจการ และในปี 2541 นายศิวะชัย เสียชีวิตลง นายวิเชียรจึงรับที่จะเป็นผู้บริหารกิจการของโรงงานซีอิ๊วหยั่นหว่อหยุ่นเพียงลำพัง ซึ่งนางเหล่นและพี่น้องทุกคนก็มอบความไว้วางใจให้บริหารต่อไป

ในการบริหารกิจการโรงงานซีอิ๊วหยั่นหว่อหยุ่นคนเดียวนั้น นายวิเชียรได้ให้จำเลย คือนางสุมาลี ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ช่วยดูแลกิจการทั่วไป โดยนางเหล่นไม่ได้เข้ามาดูแลในเรื่องการเงิน การบัญชี ภาษี รวมทั้งการสั่งซื้อวัตถุดิบซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรู้ว่านางสุมาลีในฐานะสะใภ้ทราบดีว่ากิจการซีอิ๊วหยั่นหว่อหยุ่นเป็นกิจการภายในครอบครัว

เรียกคืนทรัพย์สิน 4 พันล้าน

คำร้องระบุต่อว่า นายวิเชียรได้เสียชีวิตเมื่อปี 2544 โดยนางสุมาลีเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาล และในฐานะส่วนตัว นางสุมาลีได้ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของนางเหล่นและทรัพย์มรดกของนายถ่ง ซึ่งนายวิเชียรได้ครอบครองไว้ ไปเป็นประโยชน์แก่จำเลยและบุคคลอื่น ทำให้นางเหล่นและกองมรดกของนายถ่งได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ สินทรัพย์ของนางเหล่นและทรัพย์มรดกของนายถ่ง ที่นายวิเชียรครอบครองไว้แทนทายาททุกคนในเบื้องต้นได้แก่ โฉนดที่ดิน ที่บางรัก พร้อมกับโรงงานเดิมที่ใช้ในการผลิตซีอิ๊วภายใต้ชื่อทางการค้าว่า หยั่นหว่อหยุ่น ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของบริษัทหยั่นหว่อหยุ่น จำกัด และทรัพย์สินอื่นที่ได้มาเนื่องจากประกอบกิจการผลิตซีอิ๊วและจำหน่ายซีอิ๊วภายใต้ชื่อทางการค้าว่า หยั่นหว่อหยุ่น ประกอบด้วยที่ดินและโรงงานสาขาทุกสาขา เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตซีอิ๊วรวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงงานผลิตซีอิ๊วภายใต้ชื่อทางการค้าว่า หยั่นหว่อหยุ่น สิทธิเครื่องหมายการค้าและสิทธิประโยชน์และกู๊ดวิลล์ในชื่อทางการค้าว่าหยั่นหว่อหยุ่น หุ้นในบริษัท หยั่นหว่อหยุ่น จำกัด และหุ้นในบริษัทต่างๆ บัญชีเงินฝากรวมทั้งทรัพย์สินอื่นและผลอันเกิดจากทรัพย์มรดกที่นายวิเชียร และครอบครัวจำเลยครอบครอง รวมทั้งทรัพย์อื่นที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเป็นเงินทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท

อาม่าบอก "อยากได้สมบัติคืน"

นางเหล่น แซ่ซู่ทู่ เจ้าของชื่อทางการค้า หยั่นหว่อหยุ่น ที่เพิ่งฉลองอายุครอบ 100 ปีไปเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา กล่าวว่า "อยากได้ส่วนของตนกลับคืนมา โดยต้องการส่วนที่เป็นของนายถ่งซึ่งเป็นสามีคืนมา เพราะหากป่วยไข้ไป จะเอาที่ไหนใช้ หากไม่มีใครดูแลจะได้เอาส่วนหนึ่งมาไว้ใช้จ่าย ทางฝั่งโน้นก็เคยได้ทรัพย์สมบัติก้อนใหญ่ไปแล้วก็ยังไม่พอใจ ฝ่ายโน้นได้ไปเยอะแล้วแต่มาบอกว่ายังไม่ได้มันก็ไม่ถูกต้อง"

ด้านนายภาณุ ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ บุตรชายคนที่ 7 กล่าวว่า ทุกวันนี้นางเหล่นมีรายได้เพียงเล็กๆ น้อยๆ จากลูกๆ ให้ไว้ใช้จ่ายซึ่งไม่มากนัก รวมถึงหาพี่เลี้ยงมาไว้ดูแล นางเหล่นจึงอยากได้ส่วนที่มีสิทธิได้กลับคืนมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจะนัดชี้ 2 สถานในวันที่ 26 ก.ย. 2546
โดยคุณ : คม ชัด ลึก - [ 19 ส.ค. 2003 , 23:12:21 น. ] [ ip : 210.55.144.111 ]

ความคิดเห็นที่ 1
ทำไมลูก ๆ ร่ำรวยหลายคนเลี้ยงแม่ให้อยู่สบายไม่ได้
โดยคุณ : เศร้า - [ 22 ส.ค. 2003 , 12:50:52 น.] [ ip : 203.146.103.197 ]

ความคิดเห็นที่ 2
คนเราจะนึกถึงพ่อแม่ก็ตอนที่ไม่มีเงินเท่านั้นแหละครับ
โดยคุณ : Shelling Ford - [ 22 ส.ค. 2003 , 21:53:30 น.] [ ip : 203.113.35.12 ]

ความคิดเห็นที่ 3
เรานั่งหน้าหลานมันเอง
โดยคุณ : คนนั่งหน้า - [ 6 ก.ย. 2003 , 17:59:53 น.] [ ip : 202.57.171.176 ]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
แจ้งลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสม | กฎ กติกา มารยาท | สัญลักษณ์พิเศษ |
จาก :
email :
icq :
รายละเอียด



กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียวครับ....